เพื่อกระตุ้นการบริโภครถยนต์ประเทศยกเลิก "ภาษีรถหรู"

ข้อมูลเบื้องต้น

ในหลายประเทศการแพร่ระบาดดังกล่าวทำให้ประชาชนไม่สนใจซื้อรถยนต์ใหม่เป็นส่วนใหญ่ แล้วจะกระตุ้นการบริโภคได้อย่างไร? มาเลเซียเป็นผู้นำโดยการยกเว้นภาษีการขาย ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะถูกดึงดูดไปที่โชว์รูมมากขึ้นหากมีแรงจูงใจทางภาษี

ขณะนี้อินโดนีเซียพร้อมที่จะปฏิบัติตาม ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ประกาศยกเลิก "ภาษีฟุ่มเฟือย" ชั่วคราวสำหรับรถยนต์บางรุ่นเพื่อกระตุ้นยอดขายและช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมยานยนต์

กระทรวงเศรษฐกิจกล่าวว่าตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมรัฐบาลจะยกเลิกภาษีฟุ่มเฟือยจากการขายรถยนต์และรถยนต์ขับเคลื่อนสองล้อที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่า 1,500 ซีซี (1.5 ลิตร)

ปัจจุบันรถยนต์ถูกเก็บภาษีระหว่าง 10 เปอร์เซ็นต์ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ตามรายงานของรอยเตอร์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคมทางการได้ลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์ลงครึ่งหนึ่งและอีกสามเดือนต่อมา แผนชั่วคราวจะได้รับการทบทวนทุกสามเดือนกรมกล่าว

ครั้งแรกดูที่ลักษณะของรูปทรงด้านหน้าของกระจังหน้าไอดีที่มีการออกแบบรูปทรงสองชั้นและโครเมี่ยมในการปรับเปลี่ยนทำให้ด้านหน้ามีความเหนียวมาก แหล่งกำเนิดแสง LED คือไฟหน้าและเชื่อมต่ออย่างแน่นหนากับตะแกรงช่องรับอากาศ เส้นรอบเอวขยายจากด้านหน้าไปด้านหลังและดุมล้อห้าล้อคู่ที่สวยงามทำให้รถคันนี้มีความเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น ในส่วนของขนาดตัวรถยาวประมาณ 4.5 เมตรกว้างประมาณ 1.8 เมตรสูงประมาณ 1.5 เมตร

ดูการตกแต่งภายใน, สีหลักของเครื่องประดับสีดำเข้ม, สีเงิน, ทำให้ภายในดูมีการเคลื่อนไหวของอากาศมากขึ้น, การรวมศูนย์ให้คนรู้สึกเรียบง่าย, เจียมเนื้อเจียมตัว, แข็งแรงใช้งานได้จริง, วัสดุแข็งจำนวนมากตกแต่งบริเวณส่วนกลาง, ดูแข็งแรงมาก, เบาะนั่งและอุปกรณ์อื่น ๆ หุ้มด้วยวัสดุที่อ่อนนุ่มให้ความรู้สึกสบาย

ในที่สุดก็มาดูระบบพลังงานรถที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 T เทอร์โบชาร์จเจอร์และเครื่องยนต์ 1.5 L ดูดอากาศตามธรรมชาติให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 215 นิวตันเมตรซึ่งให้กำลังสูงสุด 133 แรงม้าและ 145 นาโนเมตรสูงสุด แรงบิดการสิ้นเปลืองน้ำมันหลายร้อยกิโลเมตรเป็นจุดสว่างที่สำคัญและการใช้น้ำมันในการขึ้นและลงประมาณ 6 ลิตร

อุตสาหกรรมยานยนต์มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของอินโดนีเซียเนื่องจากผู้ผลิตตัวแทนจำหน่ายและร้านซ่อมมีการจ้างงานร่วมกัน 1.5 ล้านคน แรงจูงใจทางภาษีคาดว่าจะเพิ่มการผลิตรถยนต์ 81,752 คัน

ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในอาเซียนและเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดได้ฟื้นตัวหลังจากที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงเริ่มต้นของการระบาด แต่ยังไม่กลับสู่ระดับปกติ

จะขายในอินโดนีเซียเพียง 532,000 คันในปี 2563 ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมดในปี 2562 ยอดขายรถยนต์ในประเทศอินโดนีเซียคาดว่าจะกลับสู่ระดับก่อนการระบาดในปีนี้เนื่องจากผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ แต่คาดว่าจะถึง เพียง 800,000 คันลดลงจาก 1.03 ล้านคันในปี 2019 ตามข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ชาวอินโดนีเซีย

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ได้ผลักดันการลดหย่อนภาษีเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อดึงดูดผู้ซื้อดังนั้นนี่จึงเป็นชัยชนะที่สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมนี้

คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม